ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่งานประกันเจ่เจ้ฮิตฮ็อตติดตลาด ทั้งป้าเมาท์ ป้าแม้น นังโรเบิร์ต วิ่งเข้ามาซื้อประกันกับเจ่เจ้กันให้จ้าละหวั่น ไม่พอค่ะ พวกนางยังพาทีมงานของนางมาซื้อกันทั้งอำเภอ ซื้อกับเจ่เจ้คนเดียวน่ะรู้หมายยย เจ่เจ้บอกเลยมากันเยอะจนเจ่เจ้ทำงานไม่ทัน นอนหลับสนิทจนไม่มีเวลาทำมาหากินอย่างอื่น จะเจลแอลกอฮอร์ Durox อะไรเจ่เจ้ก็ขายไม่ทัน ต้องให้เซลโทรหาลูกค้ากันเองรัว ๆ ค่ะ
ในหมู่คนที่มาซื้อประกันกับเจ่เจ้ มีหลายคนที่ถามหา “ประกันโควิด” ซึ่งมันก็คือประกันที่ดูแลเราเฉพาะเมื่อเราเป็นโควิดเท่านั้น โรคอื่นประกันจะบ่จ่าย พอลูกค้ามาหาเจ่เจ้ บางคนเจ่เจ้ก็เชียร์ให้ซื้อประกันเฉพาะโรคแบบนี้ บางคนเจ่เจ้ก็เชียร์ให้ซื้อประกันอีกแบบที่คุ้มครองทุกโรค แล้วแต่คนไปค่ะ ซิสอาจจะสงสัยว่าทำไมเจ่เจ้ไม่เชียร์ให้ซื้อประกันเฉพาะโรคโควิดกันทุกคน ถ้าอยากรู้เรื่องราวให้กระจ่าง เจ่เจ้ก็พร้อมจะแถลงไข อ่านค่ะ!!!
เรื่องมีอยู่ว่า...ลูกค้าคนหนึ่งของเจ่เจ้ เอาประกันแบบหนึ่งมาถาม เป็นประกันที่คุ้มครองแค่โรคโควิดโรคเดียว (ในที่นี้เจ่เจ้ขอเรียกว่าประกันแบบเฉพาะโรค) เป็นแบบมีค่ารักษาและเงินชดเชยเมื่อโคม่าหรือเสียชีวิต สมมติว่ามีวงเงินค่ารักษา 100,000 บาท และมีค่าชดเชยเมื่อโคม่าหรือเสียชีวิต 1 ล้านบาท นางก็บอกว่าเบี้ยประกันถู๊กกกก ถูก!!! สมมติว่า 850 บาท ต่อปีค่ะ
แต่เจ่เจ้เถียงค่ะ!!! เจ่เจ้บอกนางว่า...ประกันฉบับนี้ แพง!!!
ทำไมน่ะเหรอคะ? เจ่เจ้อยากให้ซิสพิจารณาทางเลือกของประกันแบบรับประกันแค่โรคเดียว กับประกันแบบยกเข่งที่รับประกันทุกโรค ตามนี้นะคะ
ประกันแบบโรคเดียว |
ประกันแบบโรคเดียว |
ประกันแบบโรคเดียว ทำ 10 โรค (ปรับทุนให้เท่ากับแบบยกเข่ง) |
ประกันแบบยกเข่ง |
|
ความคุ้มครองโรค |
คุ้มครองเฉพาะโรค |
คุ้มครองเพียง 1 โรค |
คุ้มครองเพียง 10 โรค |
คุ้มครองทุกโรค |
วงเงินค่ารักษา |
จ่ายค่ารักษาตามจริงไม่เกิน 1 แสนบาท |
จ่ายค่ารักษาตามจริงไม่เกิน 5 แสนบาท |
จ่ายค่ารักษาตามจริงไม่เกิน 5 แสนบาทต่อโรค |
จ่ายค่ารักษาตามจริงไม่เกิน 5 แสนบาท |
กรณีโคม่า/เสียชีวิต |
รับเงิน 1 ล้านบาทหากเป็นการโคม่าหรือเสียชีวิตจากโรคในสัญญา |
รับเงิน 5 ล้านบาทหากเป็นการโคม่าหรือเสียชีวิตจากโรคในสัญญา |
รับเงิน 5 ล้านบาท หากเป็นการโคม่าหรือเสียชีวิตจากโรคในสัญญา |
รับเงิน 5 ล้านบาท |
เบี้ยประกัน |
850 บาท |
4,250 บาท (850x5) |
42,500 (4,250x10) |
42,860 บาท |
*ตัวเลขประมาณการจากผู้ทำประกันเพศหญิง อายุ 35 ปี
เอาล่ะค่ะ...มาคิดเลขจากตารางกันดีกว่า
ถ้าวันพรุ่งนี้ ซิสเป็นโควิด และสามารถซื้อประกันโควิดแบบที่เจ่เจ้ว่าไปได้แบบ “ไม่จำกัดจำนวนกรมธรรม์” และต้องการค่ารักษาแบบจ่ายตามจริง 5 แสนบาท ซิสจะต้องจ่ายเบี้ย
850x5 = 4,250 บาท
ถ้าวันหน้าโควิดหมดลง แล้วซิสป่วยโรคอื่นแทน แล้วซิสสามารถซื้อประกันแยกเป็นโรค ๆ ได้ แล้วทำทุนให้ได้ 5 แสนบาทเหมือนโควิด ซิสจะต้องจ่ายเบี้ยประกันโรคละ 4,250 บาท ถ้ามันมีบริษัทขายนะคะ เช่น โรคไส้ติ่ง 4,250 บาท โรคเส้นเลือดสมอง 4,250 บาท ฯลฯ คิดเล่น ๆ ว่า ซื้อสัก 10 โรค เป็นเงิน
4,250x10 = 42,500 บาท
แปลว่า..ถ้าซิสซื้อแยกโรคทุน 500,000 บาทต่อโรคแล้วคิดซะว่าราคา 1 โรค เท่ากับกรมธรรม์โควิด 1 กรมธรรม์ ซิสต้องจ่ายเงินถึง 42,500 บาทต่อปีแต่มีดีกับแค่ 10 โรคที่ซื้อไว้
ในทางกลับกัน... ถ้าซิสซื้อประกันสุขภาพปกติ ที่ให้ความคุ้มครองแบบยกเข่ง ได้ค่ารักษาตามจริง 5 แสนบาท กรณีเสียชีวิตหรือโคม่ารับเงิน 5 ล้านบาท
ซิสจะจ่ายเงินแค่ 42,860 บาท
แต่คุ้มครองค่ารักษาทุกโรค และเสียชีวิตจากทุกกรณี!!!
ซิสลองนึกนะคะว่าโรคในโลกนี้มันมีกี่โรค ถ้าซิสต้องไล่ทำประกันทุกโรคแยก ๆ กัน ซิสจะต้องเสียเงินกี่บาท...
ตอนเขียนบทความนี้ทำให้เจ่เจ้นึกถึงคลิปหนึ่งที่เจ่เจ้เคยดู เขาบอกว่า คนที่มีกำลังทรัพย์มากมีแนวโน้มที่จะมีต้นทุนในการใช้ชีวิตต่ำกว่าคนที่มีกำลังทรัพย์น้อย เพราะซื้อของยกโหลได้ราคาถูกกว่า คนที่กำลังซื้อน้อย ต้องซื้อปลีกแยกชิ้นทำให้ต้องจ่ายแพงกว่า
พอมาดูประกันก็เห็นจะจริง
แต่ก็ใช่ว่าประกันแบบแยกโรคจะไม่มีประโยชน์นะคะ เพราะสุดท้ายหากเราซื้อประกันแบบยกโหลไม่ได้ ยอมจ่ายซื้อประกันแบบแยกโรค เหมือนประกันโควิดตอนนี้ แม้จะแพงกว่าหน่อย แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็น ทำไว้เถอะค่ะ...อย่างที่คุณปู่วอเหร็น บุฟเฟ่ต์ (ผู้ได๋น้อ) กล่าวไว้
"ซื้อของยกโหลถูกกว่า ประกันก็เช่นกัน"
จริงไหมคร้าซิสสสส